วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Beauty in Bed

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ beauty in bed

Beauty  in Bed

       การนอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกาย จะได้ปล่อยสารเมลาโทนินออกมา  สารนี้ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่ง ปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอย และช่วยชะลออายุผิวพรรณให้ตึงกระชับ อ่อนเยาว์ ไม่เหี่ยวย่นเร็ว
              แต่สาว ๆ ทั้งหลาย เคล็ดลับที่เราอยากบอกอยู่ตรงนี้ค่ะ การจัดท่าทางการนอนอย่างถูกวิธี  นอกจากมีส่วนช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้มากที่สุดแล้ว ยังส่งผลกับความสวยงามและผิวพรรณของผู้หญิงอย่างเราได้แบบไม่รู้ตัว

นอนคว่ำ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนคว่ำ
              กาดอกจันตัวโต ๆ  ไว้เลยว่าไม่ควรนอนคว่ำเด็ดขาด นอกจากทำให้หายใจติดขัด ปวดต้นคอ เพราะต้องตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งจะทำให้กระดูกต้นคอบิดแล้ว การนอนคว่ำหน้านาน ๆ นั้นทำให้เกิดแรงกดทับ จนเกิดริ้วรอยบนใบหน้าที่เรียกว่า Sleep Line แถมด้วยรอยตีนกาอันไม่พึงประสงค์ และหน้ายังบวมเพราะมีของเหลวมาสะสมที่ใบหน้าได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในระยะยาวยังจะทำให้หน้าอกเสียรูปทรงได้ด้วย
              TIP :  ถ้าติดนอนคว่ำจนเป็นนิสัย แก้ยังไงก็ไม่หาย ควรหาหมอนหนุนมารองคอและหน้าอกส่วนบน และวางอีกใบไว้ใต้บริเวณเอว เพื่อช่วยผ่อนคลายความตึงของแผ่นหลัง

นอนหงาย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนหงาย
              เป็นท่านอนที่ช่วยหลักเลี่ยงการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีที่สุด การนอนหงายไม่ทำให้เกิดรอยกดทับบนใบหน้า  โดยเฉพาะบริเวณที่ยับง่ายอย่างแก้มและคาง  นอกจากนั้น ท่านอนหงายยังดีต่อสุขภาพ เพราะไม่กดทับหน้าอก ช่วยให้หายใจได้สะดวก กระดูกสันหลังวางตัวตามแนวธรรมชาติ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง ไหล่ คอ ได้ดีที่สุด
               TIP :  เวลานอนหงาย  รองหมอนให้สูงเล็กน้อย เพื่อให้โลหิตไหลเวียนดี  และเลือกใช้หมอน้าไหมหรือซาตินที่จะไม่ดึงผิวให้เป็นรอยย่น

นอนตะแคง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนหงาย
              เป็นท่านอนที่ต้องทิ้งน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง การนอนตะแคงนาน ๆ จึงส่งผลไม่ต่ายจากการนอนคว่ำ  เพราะทำให้เกิดแรงกดทับก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าและรอยตีนกาได้
               TIP :  ใช้ตัวช่วยอย่างหมอนข้าง  เพื่อช่วยผ่อนน้ำหนักของร่างกาย  โดยเลือกหมอนที่ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป  เพราะจะช่วยให้การกระจายน้ำหนักดีขึ้น  ทำให้กล้ามเนื้อไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยให้หลับสบายขึ้น

รู้ความลับของท่านอนเพื่อถนอมความงามไปแล้ว  คืนนี้คงไปเลือกใช้กันได้อย่างมั่นใจนะคะ... 
Sleep Tight ค่ะ
บรรเทาป่วยด้วย  Exercise

       การออกกำลังกายเป็นประจำและถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็มแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายแล้ว  การออกกำลังกายยังเป็นยาวิเศษที่ช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้อีกด้วย
         หาก Working woman อย่างคุณโดนอาการฮิตกวนตัวกวนใจ อย่าง...  ปวดหัว นอนไม่หลับ ท้องผูก ปวดท้อง ปวดหลัง เล่นงานอยู่ล่ะก็ ลองใช้ยาขนานพิเศษที่จะแน่นำต่อไปนี้ดูค่ะ


สาเหตุ :  ไมเกรนเป็นอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรงบริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง มักมีอาการเตือนล่วงหน้า ได้แก่ เหนื่อย อ่อนเพลีย หาวบ่อย ตาพร่ามัว แสบตา เห็นภาพซ้อนหรือเห็นแสงจ้าเป็นจุด ก่อนจะมีอาการปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้และอาเจียนตามมา อาการของไมเกรนไม่รู้สาเหตุของการเกิดแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ หรือเกิดจากระบบการทำงานของหลอดเลือดในสมิงผิดปกติ และมีปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบ คือ ความเครียดและสภาวะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นอาการของไมเกรนจึงมักเป็นๆ หาย ๆ 
ท่าออกกำลังกายคลายอาการ : การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมติดต่อกันไม่น้อยกว่า 30 นาทีเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ จะช่วยให้อาการปวดไมเกรนดีขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอจดอร์ฟิน ที่ช่วยบรรเทาความเครียดและปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ เมื่อความเครียดลดลงจะช่วยลดความถี่ของการปวดได้


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ปวดประจำเดือน  ปวดประจำเดือน
สาเหตุ :  ผู้หญิงหลายคนเมื่อใกล้จะถึงวันนั้นของเดือนมักจะเริ่มมีอาการปวดเมื่อยไม่สบายตัว ปวดขา รู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ และเมื่อถึงวันนั้นของเดือนก็มีอาการปวดท้องตามมา ซึ่งสาเหตุของอาการปวดประจำเดือนนั้นเกิดจากร่างกายได้หลั่งสาร "โพรสตาแกลนดิน" คือสารที่สั่งการให้กล้ามเนื้อมดลูกหดตัวเพื่อขับประจำเดือนออกมา เมื่อมดลูกหดรัดตัวอย่างรุนแรง ก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง รวมทั้งยังเป็นการสื่อประสาทสั่งให้รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างมีประจำเดือน
ท่าออกกำลังคลายอาการ :  การเล่นโยคะท่าดาว ท่าก้มจับนิ้วหัวแม่เท้า ท่างู ท่าหน้าวัว ท่าศีรษะถึงเข่า และท่านั่งยกขาเปิดสะโพก เป็นอาสนะที่เป็นประโยชน์กับบริเวณไขสันหลัง ช่วยลดอาการปวดเอว ลดอาการปวดท้องน้อย และลดอาการดึงที่บริเวณสะโพก นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ และจะช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือนได้ในระยะยาว เพราะร่างกายได้หลั่งสารเอนดอร์ฟินให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนไม่หลับ  
สาเหตุ : ผู้หญิงวัยทำงานส่วนใหญ่มักเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับ นอนหลับ ๆ  ตื่น ๆ หรือสะดุ้งตื่นแล้วหลับต่อไปไม่ได้ ปัญหาการนอนเหล่านี้มักมาจากหลายสาเหตุหลายปัจจัย เช่น อาหาร รูปแบบการใช้ชีวิต ความเจ็บป่วย การใช้ยา ความเครียดหรือความกังวล ส่งผลให้เกิดการพักผ่อนไม่เพียงพอ จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น และอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย หากปล่อยไว้เรื้อรังอาจจะกระทบกับการทำงานหรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้
ท่าออกกำลังกาย : การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 20-30 นาที จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจน ทำให้ผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน แต่ต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักในตอนเย็นหรือก่อนนอน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ หรือลองใช้ท่าโยคะ เช่น ท่าสุริยนมัสการ ท่าอูฐ ท่าเด็ก ท่ายืนด้วยไหล่ ท่าคันไถ ท่าสะพานโค้ง ท่าสะพานโค้งเต็มตัว ท่านผ่อนคลาย (ท่าศวาสนะ) ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับได้เช่นกัน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ปวดหลัง  ปวดหลัง
สาเหตุ :  อาการปวดคอ หลัง และ ไหล่ เป็นกลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมในที่ทำงานไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงเครียด กล้ามเนื้ออักเสบ และปวดเมื่อยตามอวัยวะต่าง ๆ หากปล่อยไว้นานๆ อาจจะเกิดเป็นโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น โรคข้ออักเสบชนิดข้อเสื่อม ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่นและระยะเคลื่อนไหว เป็นต้น
ท่าออกกำลังกาย : การยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลัง ไหล่ และต้นคอ จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อไหล่และหลัง ซึ่งท่าโยคะที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ได้แก่ ท่าที่ยืดแผ่นหลัง เช่น ท่าอูฐ ท่าแมว ท่าเด็ก ท่างูเห่า ท่ายืดขา ท่านั่งทำหลังโก่งสลับหลังค่อม ท่าซูเปอร์แมน (คล้ายท่าตั้งไข่ของเด็กเล็ก)  ท่าบริหารเซ็ท-อัพ (Set-up) และท่าสุริยนมัสการด้านปวดหลัง เป็นต้น


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ท้องผูกท้องผูก
สาเหตุ :  อาการท้องผูกมักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น กินอาหารที่ไม่มีกากใย ดื่มน้ำน้อย กลั้นอุจจาระบ่อย ๆ ความเครียด ความกังวล สูบบุหรี่จัด หรือกินอาหารที่ทำให้ลำไส้ใหญ่ระคายเคืองหรืออุดตัน และหากคุณมีอาการท้องผูกเป็นประจำ นั่นอาจะเป็นข้อบ่งชี้หนึ่งว่า คุณกำลังมีปัญหารุนแรงเกี่ยวกับสุขภาพในระยะยาวได้
ท่าออกกำลังกาย : การออกกำลังกายด้วยวิธี วิ่ง เดิน ว่ายน้ำ ล้วนกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี หรือการบริหารร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง มีกำลังในการเบ่ง ส่งผลให้การขับถ่ายง่ายขึ้นด้วย  นอกจากนี้ยังสามารถใช้ท่าโยคะอาสนะกลุ่มท่าก้มไปข้างหน้า เช่น โยคะท่าสุขขะ (นั่งก้มไปข้างหน้า) โยคะท่าชานุศีรษะ (เหยียดขาไปข้างหน้า 1 ข้าง แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า) โยคะท่าปัจจุโมตาสนะ (เหยียดเท้า 2 ข้างแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า) และโยคะท่าอรรถมัสเยนทรา (กอดเข่า 1 ข้างชิดหน้าอก แล้วบิดตัวไปด้านหลัง) หากทำทุกวันจะช่วยแก้อาการท้องผูกได้

รู้อย่างนี้แล้วใครอยากหายป่วยจากปัญหาสุขภาพเหล่านี้เร็ว ๆ รีบหันมาออกกำลังกายกันดีกว่า
และถ้าอยากให้ได้ผลต่อเนื่องจริง ก็ควรหมั่นทำเป็นประจำทุกวันก็จะยิ่งเห็นผลเร็วขึ้น