วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Beauty in Bed

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ beauty in bed

Beauty  in Bed

       การนอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกาย จะได้ปล่อยสารเมลาโทนินออกมา  สารนี้ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่ง ปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอย และช่วยชะลออายุผิวพรรณให้ตึงกระชับ อ่อนเยาว์ ไม่เหี่ยวย่นเร็ว
              แต่สาว ๆ ทั้งหลาย เคล็ดลับที่เราอยากบอกอยู่ตรงนี้ค่ะ การจัดท่าทางการนอนอย่างถูกวิธี  นอกจากมีส่วนช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้มากที่สุดแล้ว ยังส่งผลกับความสวยงามและผิวพรรณของผู้หญิงอย่างเราได้แบบไม่รู้ตัว

นอนคว่ำ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนคว่ำ
              กาดอกจันตัวโต ๆ  ไว้เลยว่าไม่ควรนอนคว่ำเด็ดขาด นอกจากทำให้หายใจติดขัด ปวดต้นคอ เพราะต้องตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งจะทำให้กระดูกต้นคอบิดแล้ว การนอนคว่ำหน้านาน ๆ นั้นทำให้เกิดแรงกดทับ จนเกิดริ้วรอยบนใบหน้าที่เรียกว่า Sleep Line แถมด้วยรอยตีนกาอันไม่พึงประสงค์ และหน้ายังบวมเพราะมีของเหลวมาสะสมที่ใบหน้าได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในระยะยาวยังจะทำให้หน้าอกเสียรูปทรงได้ด้วย
              TIP :  ถ้าติดนอนคว่ำจนเป็นนิสัย แก้ยังไงก็ไม่หาย ควรหาหมอนหนุนมารองคอและหน้าอกส่วนบน และวางอีกใบไว้ใต้บริเวณเอว เพื่อช่วยผ่อนคลายความตึงของแผ่นหลัง

นอนหงาย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนหงาย
              เป็นท่านอนที่ช่วยหลักเลี่ยงการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีที่สุด การนอนหงายไม่ทำให้เกิดรอยกดทับบนใบหน้า  โดยเฉพาะบริเวณที่ยับง่ายอย่างแก้มและคาง  นอกจากนั้น ท่านอนหงายยังดีต่อสุขภาพ เพราะไม่กดทับหน้าอก ช่วยให้หายใจได้สะดวก กระดูกสันหลังวางตัวตามแนวธรรมชาติ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง ไหล่ คอ ได้ดีที่สุด
               TIP :  เวลานอนหงาย  รองหมอนให้สูงเล็กน้อย เพื่อให้โลหิตไหลเวียนดี  และเลือกใช้หมอน้าไหมหรือซาตินที่จะไม่ดึงผิวให้เป็นรอยย่น

นอนตะแคง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนหงาย
              เป็นท่านอนที่ต้องทิ้งน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง การนอนตะแคงนาน ๆ จึงส่งผลไม่ต่ายจากการนอนคว่ำ  เพราะทำให้เกิดแรงกดทับก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าและรอยตีนกาได้
               TIP :  ใช้ตัวช่วยอย่างหมอนข้าง  เพื่อช่วยผ่อนน้ำหนักของร่างกาย  โดยเลือกหมอนที่ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป  เพราะจะช่วยให้การกระจายน้ำหนักดีขึ้น  ทำให้กล้ามเนื้อไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยให้หลับสบายขึ้น

รู้ความลับของท่านอนเพื่อถนอมความงามไปแล้ว  คืนนี้คงไปเลือกใช้กันได้อย่างมั่นใจนะคะ... 
Sleep Tight ค่ะ
บรรเทาป่วยด้วย  Exercise

       การออกกำลังกายเป็นประจำและถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็มแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายแล้ว  การออกกำลังกายยังเป็นยาวิเศษที่ช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้อีกด้วย
         หาก Working woman อย่างคุณโดนอาการฮิตกวนตัวกวนใจ อย่าง...  ปวดหัว นอนไม่หลับ ท้องผูก ปวดท้อง ปวดหลัง เล่นงานอยู่ล่ะก็ ลองใช้ยาขนานพิเศษที่จะแน่นำต่อไปนี้ดูค่ะ


สาเหตุ :  ไมเกรนเป็นอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรงบริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง มักมีอาการเตือนล่วงหน้า ได้แก่ เหนื่อย อ่อนเพลีย หาวบ่อย ตาพร่ามัว แสบตา เห็นภาพซ้อนหรือเห็นแสงจ้าเป็นจุด ก่อนจะมีอาการปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้และอาเจียนตามมา อาการของไมเกรนไม่รู้สาเหตุของการเกิดแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ หรือเกิดจากระบบการทำงานของหลอดเลือดในสมิงผิดปกติ และมีปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบ คือ ความเครียดและสภาวะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นอาการของไมเกรนจึงมักเป็นๆ หาย ๆ 
ท่าออกกำลังกายคลายอาการ : การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมติดต่อกันไม่น้อยกว่า 30 นาทีเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ จะช่วยให้อาการปวดไมเกรนดีขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอจดอร์ฟิน ที่ช่วยบรรเทาความเครียดและปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ เมื่อความเครียดลดลงจะช่วยลดความถี่ของการปวดได้


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ปวดประจำเดือน  ปวดประจำเดือน
สาเหตุ :  ผู้หญิงหลายคนเมื่อใกล้จะถึงวันนั้นของเดือนมักจะเริ่มมีอาการปวดเมื่อยไม่สบายตัว ปวดขา รู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ และเมื่อถึงวันนั้นของเดือนก็มีอาการปวดท้องตามมา ซึ่งสาเหตุของอาการปวดประจำเดือนนั้นเกิดจากร่างกายได้หลั่งสาร "โพรสตาแกลนดิน" คือสารที่สั่งการให้กล้ามเนื้อมดลูกหดตัวเพื่อขับประจำเดือนออกมา เมื่อมดลูกหดรัดตัวอย่างรุนแรง ก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง รวมทั้งยังเป็นการสื่อประสาทสั่งให้รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างมีประจำเดือน
ท่าออกกำลังคลายอาการ :  การเล่นโยคะท่าดาว ท่าก้มจับนิ้วหัวแม่เท้า ท่างู ท่าหน้าวัว ท่าศีรษะถึงเข่า และท่านั่งยกขาเปิดสะโพก เป็นอาสนะที่เป็นประโยชน์กับบริเวณไขสันหลัง ช่วยลดอาการปวดเอว ลดอาการปวดท้องน้อย และลดอาการดึงที่บริเวณสะโพก นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ และจะช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือนได้ในระยะยาว เพราะร่างกายได้หลั่งสารเอนดอร์ฟินให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นอนไม่หลับ  
สาเหตุ : ผู้หญิงวัยทำงานส่วนใหญ่มักเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับ นอนหลับ ๆ  ตื่น ๆ หรือสะดุ้งตื่นแล้วหลับต่อไปไม่ได้ ปัญหาการนอนเหล่านี้มักมาจากหลายสาเหตุหลายปัจจัย เช่น อาหาร รูปแบบการใช้ชีวิต ความเจ็บป่วย การใช้ยา ความเครียดหรือความกังวล ส่งผลให้เกิดการพักผ่อนไม่เพียงพอ จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น และอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย หากปล่อยไว้เรื้อรังอาจจะกระทบกับการทำงานหรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้
ท่าออกกำลังกาย : การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 20-30 นาที จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจน ทำให้ผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน แต่ต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักในตอนเย็นหรือก่อนนอน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ หรือลองใช้ท่าโยคะ เช่น ท่าสุริยนมัสการ ท่าอูฐ ท่าเด็ก ท่ายืนด้วยไหล่ ท่าคันไถ ท่าสะพานโค้ง ท่าสะพานโค้งเต็มตัว ท่านผ่อนคลาย (ท่าศวาสนะ) ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับได้เช่นกัน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ปวดหลัง  ปวดหลัง
สาเหตุ :  อาการปวดคอ หลัง และ ไหล่ เป็นกลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมในที่ทำงานไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงเครียด กล้ามเนื้ออักเสบ และปวดเมื่อยตามอวัยวะต่าง ๆ หากปล่อยไว้นานๆ อาจจะเกิดเป็นโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น โรคข้ออักเสบชนิดข้อเสื่อม ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่นและระยะเคลื่อนไหว เป็นต้น
ท่าออกกำลังกาย : การยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลัง ไหล่ และต้นคอ จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อไหล่และหลัง ซึ่งท่าโยคะที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ได้แก่ ท่าที่ยืดแผ่นหลัง เช่น ท่าอูฐ ท่าแมว ท่าเด็ก ท่างูเห่า ท่ายืดขา ท่านั่งทำหลังโก่งสลับหลังค่อม ท่าซูเปอร์แมน (คล้ายท่าตั้งไข่ของเด็กเล็ก)  ท่าบริหารเซ็ท-อัพ (Set-up) และท่าสุริยนมัสการด้านปวดหลัง เป็นต้น


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ท้องผูกท้องผูก
สาเหตุ :  อาการท้องผูกมักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น กินอาหารที่ไม่มีกากใย ดื่มน้ำน้อย กลั้นอุจจาระบ่อย ๆ ความเครียด ความกังวล สูบบุหรี่จัด หรือกินอาหารที่ทำให้ลำไส้ใหญ่ระคายเคืองหรืออุดตัน และหากคุณมีอาการท้องผูกเป็นประจำ นั่นอาจะเป็นข้อบ่งชี้หนึ่งว่า คุณกำลังมีปัญหารุนแรงเกี่ยวกับสุขภาพในระยะยาวได้
ท่าออกกำลังกาย : การออกกำลังกายด้วยวิธี วิ่ง เดิน ว่ายน้ำ ล้วนกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี หรือการบริหารร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง มีกำลังในการเบ่ง ส่งผลให้การขับถ่ายง่ายขึ้นด้วย  นอกจากนี้ยังสามารถใช้ท่าโยคะอาสนะกลุ่มท่าก้มไปข้างหน้า เช่น โยคะท่าสุขขะ (นั่งก้มไปข้างหน้า) โยคะท่าชานุศีรษะ (เหยียดขาไปข้างหน้า 1 ข้าง แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า) โยคะท่าปัจจุโมตาสนะ (เหยียดเท้า 2 ข้างแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า) และโยคะท่าอรรถมัสเยนทรา (กอดเข่า 1 ข้างชิดหน้าอก แล้วบิดตัวไปด้านหลัง) หากทำทุกวันจะช่วยแก้อาการท้องผูกได้

รู้อย่างนี้แล้วใครอยากหายป่วยจากปัญหาสุขภาพเหล่านี้เร็ว ๆ รีบหันมาออกกำลังกายกันดีกว่า
และถ้าอยากให้ได้ผลต่อเนื่องจริง ก็ควรหมั่นทำเป็นประจำทุกวันก็จะยิ่งเห็นผลเร็วขึ้น


วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559


10 เทคนิคทาลิปสติกให้สวยเป๊ะแบบมืออาชีพ

เคล็ดลับการใช้ลิปสติก

10 เคล็ดลับการใช้ลิปสติก รู้ทางลัดง่าย ๆ แบบนี้แล้ว บอกเลยชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ

          ถึงแม้สาว ๆ มักจะโหวตให้การแต่งตาเป็นส่วนที่แต่งยากที่สุด แต่การแต่งตรงส่วนปากก็ไม่ได้ง่ายไปกว่ากันเลยนะจ๊ะ เพราะการทาปากไม่ใช่แค่หยิบลิปสติกมาทา ๆ ถู ๆ แล้วจะสวยเลย ถ้าอยากให้สีติดทน ปากเนียนกริบไม่มีที่ติ หรือปากดูพุ่งแบบฟูลเอชดีเหมือนเหล่าเซเลบริตี้ละก็ ต้องพึ่ง 10 เคล็ดลับนี้กันซะหน่อยแล้ว ถ้าทำตามนี้รับรองว่าชีวิตสาว ๆ ง่ายขึ้นเป็นกอง

          หากต้องการให้ปากดูเรียวบางกว่าที่เป็น ลิปสติกเนื้อแมตต์นี่แหละช่วยคุณได้ แต่ถ้าอยากให้ปากดูเจ่ออวบอิ่มน่าจุ๊บละก็ ต้องใช้ลิปเนื้อวาว ลิปกลอส หรือลิปที่มีชิมเมอร์ก็จะช่วยได้นะจ๊ะ

เคล็ดลับการใช้ลิปสติก

           อย่ามองข้ามความสำคัญของลิปไพรเมอร์เด็ดขาด เพราะไอเทมนี้แหละที่จะช่วยให้ปากเนียนและลิปสติกไม่ตกเป็นร่อง แถมยังทำให้ลิปสติกติดทนนานด้วย
          ไม่อยากให้ลิปสติกติดฟัน ก็แค่เอาเอานิ้วมือสอดเข้าไปในปาก แล้วดึงออกมา อาจจะเป็นท่าพิลึกหน่อยนะ แต่มันเวิร์กมากขอบอก

เคล็ดลับการใช้ลิปสติก
            อยากทาปากให้เป๊ะแบบไม่ต้องพึ่งพู่พัน ลองเริ่มใช้ลิปสติกวาดตัว X ที่กึ่งกลางริมฝีปากบนก่อน จากนั้นค่อยเติมส่วนที่เหลือให้เนียนกริบ เพียงเท่านี้ปากก็ดูสวยเป๊ะแล้ว

เคล็ดลับการใช้ลิปสติก
 ลิปสติกจะติดทนนานหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาของลิปสติกหรอกนะจ๊ะ เพราะแค่ทาปากแล้ว นำทิชชูมาวางทับบนปาก จากนั้นปัดแป้งฝุ่นโปร่งแสงทับบนทิชชู ก็จะช่วยให้สีลิปสติกติดทนอยู่บนปาก เด้ง ๆ ทั้งวันเลยงานนี้
หากทาลิปสติกแล้วเลอะออกนอกขอบปากนี่ดูไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย เอาเป็นว่าทาปากเสร็จแล้วมาเก็บรายละเอียดกันหน่อย ด้วยการนำคอนซีลเลอร์มาแตะรอบขอบปาก เพื่อเก็บให้รูปปากเนียนกริบสุดๆ

เคล็ดลับการใช้ลิปสติก
วันไหนที่รู้สึกอยากได้ปากลุคเซ็กซี่ด้วยการทากลอส แต่ดันไม่มีลิปกลอสในกรุเลย ก็ไม่ต้องเครียดไป เพราะแค่ขูดอายแชโดว์ให้เป็นผง ๆ แล้วนำมาผสมกับปิโตรเลียมเจลลี่ ก็จะได้ลิปกลอสแบบฉบับ DIY เก๋ ๆ แล้ว
อยากปากโดดเด้งพุ่งแบบสามมิติ ก็ลองแตะไฮไลท์เบา ๆ ที่กึ่งกลางริมฝีปากดูสิ รับรองงานนี้ปากพุ่งจริงอะไรจริง

เคล็ดลับการใช้ลิปสติก
หมุนลิปสติกขึ้นมาใช้แทบขาดใจ เพราะลิปสติกดันหักไปซะดื้อ ๆ งานนี้ไม่ต้องทิ้งให้เปลือง เพราะแค่นำไฟแช็กมาลนลิปสติกส่วนที่ติดอยู่กับแท่งและส่วนที่หักให้ละลาย จากนั้นนำแท่งลิปสติกที่หักมาต่อไว้เหมือนเดิมจนกว่าจะแน่น แค่นี้ก็กลับมาใช้ได้ใหม่อีกครั้ง

ปากอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ ก็มีได้ไม่เห็นต้องฉีดอย่างเดียว แค่นำน้ำมันเปปเปอร์มิ้นต์มาผสมไปในลิปกลอส เมื่อทาแล้วก็จะช่วยเพิ่มความอิ่มเอิบให้ริมฝีปากแบบขั้นสุด

เคล็ดลับการใช้ลิปสติก
ลิปสติกสีเข้ม ๆ ที่เช็ดถูจนแสบปากยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออก บอกเลยว่าแค่ทาวาลสลีนลงไปก่อนแล้วใช้สำลีถูเบา ๆ อีกครั้ง แค่นีั้สีก็หลุดออกหมดเกลี้ยง
          หากการทาลิปสติกให้สวยเคยเป็นเรื่องยากสำหรับคุณมาก่อน ก็แค่จำ 10 เคล็ดลับนี้ไว้แล้วนำไปใช้ แค่นี้การทาปากให้เป๊ะตลอดทั้งวันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วจ้า


ข้อมูลจาก : buzzfeed , dailymakeover และ makeup 
ภาพจาก : Instagram ahitsrosa, ssssamanthaa, gloriana_artistry, annaryx


"โยคะ ท่าสุริยะนมัสการ"

"โยคะ ท่าสุริยะนมัสการ"



สุริยะนมัสการ โยคะพื้นฐานที่ยึดหลักการยืดเหยียดร่างกายและมีสติอยู่กับลมหายใจ ประกอบไปด้วย 12 ขั้นตอน

ซึ่งเป็นขั้นตอนการฝึกโยคะของชาวอินเดียโบราณ สาว ๆ ลองฝึกทำกันได้ไม่ยาก

สุริยะนมัสการเป็นโยคะที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ เพียงเข้าใจพื้นฐานของโยคะซึ่งก็คือ หลักการยืดเหยียดร่างกาย และมีสติอยู่กับลมหายใจ  เพียงคุณใช้เวลาเพียง 5-10 ตอนเช้าหลังตื่นนอนไหว้พระอาทิตย์ก็จะได้เริ่มต้นวันใหม่ที่สดใสและมีพลังยิ่งใหญ่ในชีวิต ท่านี้เป็นการฝึกโยคะของชาวอินเดียโบราณ ซึ่งฝึกกันเป็นธรรมเนียมก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น เป็นรูปแบบของโยคะที่สมบูรณ์อยู่ในตัวเอง
ประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ 12 ขั้นตอน ต่อเนื่องไปตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของคุณ
เป็นการบริหารร่างกายทุกส่วนอย่างสมดุล ตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงศรีษะ เมื่อฝึกเป็นประจำจะส่งผลให้ร่างกายยืดหยุ่น อย่างที่เราชอบพูดกันว่า "ตัวอ่อน" รูปร่างโดยองค์รวมจะดูเพรียวสวยงาม สมสัดส่วน กล้ามเนื้อกระชับ ไม่หย่อนยาน เป็นการชะลออายุ ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย

กล้ามเนื้อข้อต่ออวัยวะภายในระบบต่างๆของร่างกาย
รวมถึงสมอง จะได้รับการกระตุ้นทั้งหมดจากท่านี้



1. Samastitihi : Standing at Attention : ‘หายใจปกติ ยืนตรงอย่างสำรวม มือทั้งสองข้างอยู่ในท่าไหว้ระดับอก พยายามทรงตัวให้มั่นคง’
2. อรรถจันทราสนะ (Ardha Chandrasana) : ‘เหยียดแขนขึ้นจนสุด พร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ แอ่นตัวไปด้านหลังมากหรือน้อยตามที่เราจะทำได้’ ท่านี้ช่วยเรื่องการทรงตัว กระดูกและโครงสร้างร่างกายจะแข็งแรง การหมุนเวียนเลือดดีขึ้น กระบวนการฟอกและผลิตเม็ดเลือดแดงมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะท่านี้ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกาย และช่วยขจัดไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีอีกด้วย
3. อุตตานาสนะ (Uttanasana) : ‘พับตัวลงมาพร้อมกับหายใจออก ยกสะโพกสูง ยืดหลังขา เหยียดแขนลงกับพื้น บางท่านอาจใช้มือจับข้อเท้าไว้แทน’ ท่านี้ถ้าฝึกบ่อยๆ ตัวจะอ่อนจนมือแตะพื้นได้ แต่ผู้มีปัญหาเรื่องหลังไม่ควรก้มมาก ให้ก้มเท่าที่จะทำได้ก็พอ
4. Ashwa Sanchalanasana : ‘ชักเท้าขวาไปด้านหลัง หลังตรง พับเข่าด้านหน้าย่อตัวลงให้ขนานกับพื้น หายใจเข้า ใช้แขนช่วยในการทรงตัวอีกทาง  ท่านี้ช่วยป้องกันและรักษาอาการปวดหลังได้ ช่วยให้การหมุนเวียนเลือดดีขึ้น บางท่านชอบใช้ท่าอรรถจันทราสนะ (Ardha Chandrasana) ร่วมกับอาสนะนี้ด้วย คือ เมื่อทรงตัวในท่านี้ได้อย่างมั่นคงแล้ว ‘เงยหน้า เหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะเท่าที่จะทำได้จนลำตัวครึ่งบนมีลักษณะ เหมือนจันทร์เสี้ยว’ ซึ่งจะเพิ่มการยืด คอ ไหล่ หลังและหน้าอก
5. Hold the breath อยู่ในท่าสี่ขา (Santorasana) : เพื่อเพิ่มสมดุลของระบบประสาทระหว่างมือกับเท้า ปรับจุดการทรงตัวของร่างกาย
บางท่านจะต่อด้วยท่าที่ 6 คือ Ashtanga Namaskar Asana เลย แต่บางท่านจะทำท่าอโถมุขสวาสนะก่อน (Adho Mukha Svanasana) (ท่าที่ 8): ‘ดันสะโพกขึ้น ให้ลำตัวอยู่ในท่าสามเหลี่ยม’ ท่านี้ช่วยให้กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รักษาอาการปวดเอว หลัง สะโพก ทำให้แขน ขา หัวไหล่คล่องตัวและแข็งแรง ที่สำคัญช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของใบหน้าและทำให้ระบบการหายใจดีขึ้น
6. Ashtanga Namaskar Asana : ‘มุดหน้าลง เข่าแตะพื้น มือยันพื้นไว้ เงยหน้าและดันสะโพกขึ้น หายใจออกยาวๆ ในจังหวะที่ดันตัวขึ้น โดยที่หน้ายังแตะพื้นอยู่’ ท่านี้จะป้องกันและรักษาอาการปวดหลังได้ดี คุณมาถึงครึ่งทางของสุริยะนมัสการแล้ว อย่าท้อใจว่าทำไมมีหลายอาสนะจัง อย่างที่เราบอก “ท่าไหว้พระอาทิตย์จะช่วยบริหารและยืดกล้ามเนื้อทุกส่วน จนถึงการนวดอวัยวะภายใน” ดังนั้น ทำใจให้สบาย เข้าอาสนะด้วยความไม่เครียด ไม่เกร็ง เคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลเชื่องช้า เมื่อคุณเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ จะช่วยให้การหายใจยาวและลึกตามไปด้วย
สุริยะนมัสการไม่ใช่ท่าเดียวโดดๆ ที่ฝึกรวดเดียวจบในตัวเอง แต่ประกอบด้วยอาสนะต่างๆ ที่ต่อเนื่องกันเป็นสายลูกโซ่ ทุกอาสนะสัมพันธ์กันอย่างลงตัว เสริมและแก้กันตามลำดับ ทำให้สุริยะนมัสการเป็นอาสนะที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูง มีผลดีต่อสุขภาพโดยรวม การฝึกท่าโยคะท่าแสดงความเคารพต่อดวงอาทิตย์ เป็นท่าที่มีลักษณะหมุนเวียน จากจุดเริ่มต้นและมาจบที่จุดเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จากอาสนะเริ่มต้นจนมาถึง Ashtanga Namaskar Asana 
เรากำลังจะได้หวนกลับคืนไปสู่การเริ่มต้นใหม่ โดยออกจากอาสนะนี้
ให้คุณเข้าภุชงคาสนะ (Bhujangasana)

                         


7. ภุชงคาสนะ (Bhujangasana) : อยู่ในท่านอนแอ่นหลังหายใจเข้าอย่างต่อเนื่อง เหยียดแขนเท้าพื้นไว้ข้อศอกชิดลำตัว’ ผู้ที่กระดูกสันหลังเคลื่อนและเป็นโรคต่อมไทรอยด์โตไม่ควรเข้าอาสนะนี้ สามารถให้ย้อนกลับไปอ่านการเข้าท่าอาสนะนี้อย่างละเอียดจากเรื่อง “พร้อมสู้ด้วยภุชงคาสนะ” ท่านี้จะช่วยการทำงานของต่อมน้ำเหลือง และช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้รับการบริหาร
(ผู้หญิงที่กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่แข็งแรง จะมีลมเข้าออกช่องคลอด มดลูกหย่อนคล้อยและปัสสาวะเล็ดลอด กะปริบกะปรอย)
8. อโถมุขสวาสนะ (Adho Mukha Svanasana) : มือยันพื้น แขนเหยียดตึง ยกตัวดันสะโพกขึ้น ให้ลำตัวอยู่ในท่าสามเหลี่ยม หายใจออก ท่านี้นอกจากจะยืดหยุ่นได้ดีสำหรับคนที่ตัวแข็งแล้ว จะทำให้คนที่เป็นโรคนอนไม่หลับ INSOMNIA จะนอนหลับได้ง่ายขึ้น ฟื้นฟูความทรงจำ ป้องกันผมร่วงเพราะรากผมขาดเลือด หรือเส้นเลือดตีบ ชะลอความชราช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์  ผู้ที่เป็นสิวฝ้าควรทำบ่อยๆ ด้วย
9. จากท่าที่ 8. ลำตัวสามเหลี่ยมให้ก้าวเท้าด้านหนึ่งกลับมาด้านหน้า เพื่อเข้า Ashwa Sanchalanasana : หลังตรง พับเข่าที่อยู่ด้านหน้า โดยที่ขาอีกข้างยังเหยียดอยู่ด้านหลัง มือแตะพื้นหายใจเข้าช้าๆ
10. ลุกขึ้นยืนเข้าท่าพับตัว หรือ ท่ายืนก้ม Uttanasana โดยให้พับตัวลงมาพร้อมกับหายใจออก
11. เหยียดแขนขึ้นหายใจเข้าพร้อมท่า อรรถจันทราสนะ (Ardha Chandrasana) โดยให้เหยียดแขนขึ้นจนสุด พร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ แอ่นตัวไปด้านหลัง เป็นอาสนะท่ายืนที่ลำตัวคล้ายรูปจันทร์เสี้ยว
12. สิ้นสุดด้วยท่าเริ่มต้นยืนไหว้  Samastitihi  ยืนตรงอย่างมั่นคง เท้าทั้งสองข้างชิดกัน มือทั้งสองข้างอยู่ในท่าไหว้ระดับอก พยายามทรงตัวให้มั่นคง สำรวมกายใจให้สงบนิ่ง สิ้นสุดการไหว้พระอาทิตย์ ให้คุณฝึกลมหายใจให้สัมพันธ์กับท่า ‘ลมหายใจที่ยาวลึกเป็นการช่วยขับพิษออกจากร่างกาย’

ตื่นเช้ามาทำเพียงวันละ 5 รอบ คุณจะได้เริ่มต้นวันใหม่อย่างยิ่งใหญ่ มีพลังและแข็งแรง

Cr. www.never-age.com